การจัดการเรียนการสอนออนไลน์
ผมขอแบ่งการสอนออนไลน์ออกเป็น 2 แบบตามหลักการสื่อสาร
1. Synchronous communication หรือการสื่อสารตามเวลาจริง ผู้สอนกับผู้เรียนอยู่ต่างสถานที่แต่อยู่ในเวลาเดียวกัน (Different place & same time) ซึ่งอาจแบ่งเป็นสองข้อย่อย (อันนี้ผมแบ่งเองนะครับ)
1.1 Real-time หรือ Live lecture เป็นการสอนโดยใช้การสื่อสารแบบตามเวลาจริง บรรยายสดต่อหน้าผู้เรียน ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะถูกออกอากาศทั้งหมด เช่น Meet, Zoom, Team เป็นต้น (แบบนี้ต้องใช้ทรัพยากรสูงและจะเหนื่อยมากทั้งผู้สอนและผู้เรียน)
1.2 On-time หรือ Live with tape เป็นการสอนโดยใช้การสื่อสารแบบตามเวลาจริง แต่ใช้วิดีโอที่บันทึกล่วงหน้า (Pre-recorded video) มาออกอากาศสด โดยผู้สอนจะทำหน้าที่คอยตอบคำถาม (Chat) กับผู้เรียนแทน เช่น OBS, YouTube Stream เป็นต้น (แบบนี้จะเหนื่อยน้อยหน่อย ใช้ทรัพยากรพื้นฐานได้)
2. Asynchronous communication หรือการสื่อสารตามเวลาสะดวก ผู้สอนกับผู้เรียนอยู่ต่างสถานที่และต่างเวลากัน หรือ Different place & different time (แบบนี้จะสะดวกที่สุดและเหนื่อยน้อยที่สุดทั้งสองฝ่าย)
การสอนแบบนี้ผู้สอนต้องสร้างสื่อการเรียนรู้ เช่น สื่อวิดีโอสั้นๆ เป็นตอนๆ หรือ สื่อPDF หรือ สื่อเว็บไซต์ แล้วไปแขวนไว้บนระบบห้องเรียนเสมือนจริง (LMS) เช่น blackboard, google classroom, moodle, moocs, edmodo เป็นต้น โดยให้นักศึกษาเข้ามาเรียนรู้เป็นรายบุคคลตามที่เค้าสะดวก หรือ on-demand (มีระบบคอยติดตาม) แต่หากนักศึกษามีข้อสงสัย หรือต้องการปรึกษางานเป็นกลุ่มที่ทุกคนรวมทั้งผู้สอนต้องมาคุยกันพร้อมหน้า ก็ค่อยใช้โปรแกรมประชุมออนไลน์จัดประชุมก็ได้ ซึ่งแต่ละโปรแกรมมีข้อดีข้อเสียต่างกันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้สอนแต่ละท่าน ภาพรวมของการจัดการการสอนออนไลน์น่าจะเป็นแบบนี้ครับ
สรุปว่า:
การสอนแบบ On-time หรือ Live with tape น่าจะเป็นอีกตัวเลือกนึงที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ผู้สอนอาจจะต้องมีทักษะการจัดการวิดีโอในเบื้องต้นเพื่อผลิตสื่อวิดีโอการสอนเตรียมไว้ล่วงหน้า
ข้อคิด:
เพราะเป้าหมายของการสอนคือการช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ วิธีสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ควรต้องถูกจริตกับผู้เรียนด้วย (โดยเฉพาะเยาวชนไทยคงต้องใช้หลายรูปแบบหน่อย)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Facebook: Piya Sakcharoen
ไม่มีความคิดเห็น