Startup แนวใหม่ ต้นแบบธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคม

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ร่วมกับคณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง จัดเสวนาพิเศษ Tech Talk Season 4#2 คุณดื่มเราขับให้ คอปาร์ตี้ห้ามพลาด U Drink I Drive ในหัวข้อ "Startup แนวใหม่ ต้นแบบธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคม" โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรพิเศษ คือ คุณสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ Co Founder และ CEO บริษัท U Drink I Drive  ณ ห้อง Auditorium 1 อาคาร 40 ปี มหาวิทยาลัยศรีปทุม พอสรุปประมวลความได้ดังต่อไปนี้

คุณสิรโสมย์ เล่าว่าเธอเคยเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงล้วน หลังจากนั้นได้เข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี เอกบัญชี ที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ในขณะเรียนหนังสือ ช่วงบ่ายพอมีเวลาว่าง จึงขายสินค้าประเภทกระเป๋า รองเท้า โดยลุยเข้าไปดูตามโรงงานผลิตรองเท้าต่างๆ ซึ่งเขาผลิตรองเท้าได้อย่างต่ำวันละ 500 คู่ ตอนนั้นมีเงินอยู่ในกระเป๋า 20,000-30,000 บาท จึงไปซื้อเขาและรับมาขาย ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในมหาวิทยาลัย และขายในเฟซบุ๊คบ้าง และส่วนหนึ่งขอนำไปวางขายในร้านวางรองเท้าชื่อ Solora ซึ่งตอนแรกได้เดินเข้าไปถามทางร้านเขาว่า ขอวางรองเท้าขายใน Shelf จำนวน 2 คู่ด้วย พร้อมจ่ายค่าเช่าที่ 5,000 บาท โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนใช้เงินเก่ง ดังนั้น จึงคิดว่า “ถ้าเป็นคนใช้เงินเก่ง ตัวเองก็ต้องหาเงินเก่งด้วย” ได้ดำเนินการขายรองเท้าอย่างนั้นมาจนกระทั่งเรียนถึงชั้นปีที่ 4 ความจริงตนเองเป็นคนชอบเลข แต่ไม่อยากทำตัวเลขแบบที่ทำบัญชี พอเรียนจบชั้นปี 4 แล้ว บรรดาเพื่อนๆ ก็แยกย้ายกันไปทำงาน ส่วนตัวเองได้ไปทำงานเกี่ยวกับ Finance ที่บริษัท M & A ได้เงินเดือน 15,000 บาท และก็ทำอยู่เพียง 4 เดือนและก็ลาออก เพราะพี่เขาส่งงานให้ทำไม่ตรงกับความต้องการของเรา ตอนนั้นมีพลังเยอะมาก อยากทำธุรกิจเยอะมากด้วย เคยสอบได้เป็นแอร์ ต่อมาคิดอยากเรียนต่อปริญญาโท ตอนแรกจะไปเรียนที่ U of Imperial แต่ต้องรอเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งนานพอสมควร จึงไม่อยากจะรอ

 ในลำดับต่อมาได้เรียนต่อปริญญาโท เศรษฐศาสตร์อินเตอร์ ที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เป็นหลักสูตรปีเดียวจบ อาจารย์เขาให้คิด Business Plan ขึ้นมา ให้ทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ได้ เราจึงช่วยกันคิดกับเพื่อนว่า เราจะทำธุรกิจอะไรดีที่แปลกแหวกแนว และตอบโจทย์ปัญหาสังคมได้ด้วย จึงคิดว่าปัจจุบันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอยู่บนท้องถนนในประเทศไทยเยอะมาก เราเองก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของคนไทยเมาแล้วไม่อยากให้ขับรถ ตอนแรกก็คิดว่า Uber เป็นคู่แข่งหรือเปล่า ถ้าจะเป็นก็ในทางอ้อม เพราะจากการทำวิจัย คือคนที่เมาแล้วขับรถไม่ได้ไม่มีใครอยากจะเอารถทิ้งไว้ เพราะคนไทยรักรถมาก ถ้าทิ้งรถเอาไว้ พอกลับมาดูแล้วกระจกแตกจะทำอย่างไร รถจะอยู่เหมือนเดิมไหม เป็นห่วงตัวเองและรถตัวเองและห่วงความสะดวกสบายตัวเองด้วย คนทำงานไม่ได้อาศัยอยู่คอนโดทั้งหมด คราวนี้มาดูข้อมูลเรื่องอุบัติเหตุกันบ้างจากรายงานของศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ด้านการป้องกันอุบัติเหตุ ในปี พ.ศ.2556 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก เราจึงมองลึกลงไปอีกพบว่า 40% เกิดจากการเมาแล้วขับ เราจึงคิดว่า เมาแล้วขับมีใครเข้ามาแก้ปัญหาตรงจุดนี้หรือยัง จึงคิดหัวข้องานวิจัย หรือ Thesis ขึ้นมา ชื่อ U Drive I Drive บริการพนักงานขับรถส่งนักดื่ม หรือคุณดื่มเราขับให้ และได้เคยได้ไปออกรายการ “SME ตีแตก” ในปี พ.ศ.2557 จุดเด่นของ U Drink I Drive คือ เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่ส่งเฉพาะพนักงานไปขับรถให้ในงานปาร์ตี้ยามกลางคืน และประการต่อมา คือการเป็นมืออาชีพ โดยเรามี Partner มีการรับประกันความเชื่อมั่นอย่างบริษัท LIMOUSINE EXPRESS ต่อมาทางบริษัทของเรามีเทคโนโลยีการติดกล้องให้กับพนักงานขับรถทุกคน และความสะดวกสบาย โดยมีแนวคิดคือ Let's party with no worries (มาปาร์ตี้กันอย่างไร้กังวล) ขับรถของคุณไปปาร์ตี้ได้เต็มที่ อย่างไร้กังวลเรื่องด่านเป่าแอลกอฮอล์ ด้วยบริการพนักงานขับรถที่คุณไว้วางใจซื่อสัตย์ มีมารยาท รักการบริการ จิตใจดี รู้ทาง และ ขับรถของคุณได้ ทุกยี่ห้อ ทุกแบบ มีให้เลือกหลายแบบ คือ (1). FEMALE DRIVER FOR LADIES สำหรับสาวๆ ที่ห่วงเรื่องความปลอดภัย จะมีอะไรดีไปกว่า พนักงานขับรถเพศหญิง ยังไงซะ ผู้หญิงด้วยกัน เราต้องดูแลกัน จริงมั้ย (2). 5 STAR LIMOUSINE STANDARD พนักงานทุกคน ได้รับการคัดเลือกอบรม ทั้งมารยาทและการขับขี่รถยนต์ โดยบริษัท ลิมูซีนเอ็กเพรส กรุ้ป บริษัทลิมูซีนชั้นนำของประเทศไทย ผู้ให้บริการกับโรงแรม 5 ดาวและสายการบินชั้นนำของโลก (3). HIGHEST SAFETY TECHNOLOGY GPS Tracking ตรวจจับเส้นทางและความเร็ว ทุกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในปัจจุบันถูกนำมาใช้เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของคุณและรถของคุณ (4). FULL INSURANCE PROTECTION คุ้มครองทุกเที่ยวด้วย บริษัทเอเชียประกันภัยให้คุณมั่นใจได้ว่า ทั้งคุณ รถ และ ของในรถ จะได้รับการดูแล เป็นอย่างดี (https://www.udrinkidrive.co.th) สำหรับอัตราค่าบริการ ดังนี้

0-5 km	6-10 km	11-15 km	16-20 km	21-25 km	26-30 km	31-35 km	36-40 km	41-50 km
500	550	600	650	700	800	900	1,200	1,500

 

สำหรับแง่คิดในการทำธุรกิจ คือ เวลาเริ่มทำธุรกิจ ให้สังเกตจากตัวเราเองก่อน และสถานการณ์รอบข้าง อุบัติเหตุของประเทศไทยเกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น ฝรั่งผัวเมียคู่หนึ่งที่ถีบรถจักรยานไปทั่วโลก แต่กลับมาเสียชีวิตในประเทศไทย ปัญหาอุบัติเหตุเป็นปัญหาระดับชาติ Application ที่มีลักษณะคล้าย U Drink I Drive นี้ เคยมีในประเทศสหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ แต่ไม่เหมือนในประเทศไทย Application  U Drink I Drive ของเรา เมาแล้วอ๊วก แต่อ๊วกได้ไม่เกิน 15 ครั้ง คนไทยยังกังวลอีกว่า ขับรถไปแล้วจะเจอตำรวจไหม ที่ทำ Application นี้ เพราะช่วยตอบโจทย์ เนื่องจากเคยมีประสบการณ์จากการทำงานรับโทรศัพท์ อยู่ 2 ปีครึ่ง จึงรู้สถานการณ์อุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี จากสถิติความเสียหายจากอุบัติเหตุในประเทศไทยมีถึง 232,000 ล้านบาทต่อปีนับว่าเป็นจำนวนมหาศาล บริษัทของเราพนักงานของเราไม่เคยมีการลวนลามลูกค้า พนักงานของเราต้องคัดเลือกให้ดีให้ถูกต้อง เพราะเขาเป็นตัวแทนของเรา ตอนสอบสัมภาษณ์เคยถามกับผู้สมัครว่า เวลาเจอลูกค้าเมาหนักมากแล้วจะต้องทำอย่างไร? ถ้าเขาตอบว่า ไม่ต้องทำอะไร เพราะไม่ใช่รถของเรา ส่วนใหญ่ถ้าตอบลักษณะนี้ จะสอบสัมภาษณ์ไม่ผ่าน คุณสมบัติของพนักงาน U Drink I Drive คือ (1). ต้องขับรถเป็น (2). มี Service Mind (3).มีมารยาทดี ทางบริษัทของเราจะอบรมเรื่องมารยาททุกอย่าง เช่น คำว่า ขออนุญาตปรับเบาะ ปรับกระจกนะครับ เพราะคนขับรถต่างคนต่างก็กลัวกันและกัน ถ้าเจอลูกค้าที่ทะเลาะกับแฟน ก็ต้องบอกเขาว่า เอาตัวเองออกมาจากอันตรายตรงนั้นเสียให้อยู่ในวิจารณญาณของตนเอง และสามารถปฏิเสธลูกค้าได้ ทางบริษัทของเราจะเลือกลูกค้าระดับบน 80% มักขับรถแบรนด์เนม ขับรถ Supper Car เช่น BMW พนักงานของบริษัทมีทั้ง Part Time และ Full Time รายได้ 2,000-3,000 บาทต่อวัน เปิดบริการมา 300,000 เที่ยว มีอุบัติเหตุน้อยมาก ในขณะเดียวกันมีการเจริญเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว ตอนเปิด 4 เดือนแรก มีคนมาขอเป็นแฟรนไชส์ ตอนเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ มีข้อเสนอมากมาย เช่น ให้ทำแบบ Uber เป็นต้น แต่เราก็ได้ทำแตกต่างออกไป หุ้นส่วนของเราตอนแรกมี 8 คน ตอนนี้เหลือ 3 คน มีแผนจะขยายเอง แต่ไม่ใช่ในลักษณะของแฟรนไชส์

การทำธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมลักษณะนี้ ความจริงใจกับลูกค้ามีความสำคัญมาก เราต้องตีโจทย์ให้แตก ตีโจทย์ที่คนอื่นตีไม่แตก Application ต้องใช้งานง่าย ตอนนี้บริษัทของเรามีโปรแกรมเมอร์อยู่ 7 คน และจะรับเพิ่มอีกเป็น 13 คน ตอนแรกที่พัฒนา Application ขึ้นมามีคนเข้ามาใช้ App เพียง 9 คน นึกว่าจะมีคนใช้สัก 300 คน เริ่มลงทุนทำธุรกิจนี้ ด้วยงบประมาณ 1 ล้านบาท มีหุ้นส่วนหลายคน ปรากฏว่า ในช่วงเริ่มแรกนี้ติดลบไป 3-5 แสนบาท และต่อมามีหุ้นส่วนบางคนถอนตัวออกไป ตอนเริ่มทำธุรกิจนี้ตนเองมีอายุ 23 ปี มีคนเสนอให้ไปทำงานธนาคาร โดยจะให้เงินเดือน 55,000 บาท แต่ก็ไม่ไปทำ ทำธุรกิจ U Drink I Drive กว่าจะอยู่ตัวใช้เวลาถึง 3 ปี ทั้งนี้ เพราะได้กำลังใจจากลูกค้า เหตุผลที่เริ่มทำธุรกิจนี้ เพราะตนเองได้เห็นปัญหาของสังคม เวลาเราจะเริ่มทำธุรกิจ เราต้องคิดว่า เราต้องช่วยเหลือสังคม ส่งคนอื่นให้ถึงบ้านด้วยความปลอดภัย และด้วยความปรารถนาดี.

 

------------

บทความโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุพล  พรหมมาพันธุ์

อาจารย์ประจำสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ  มหาวิทยาลัยศรีปทุม