Header Ads

เจาะลึกแฟรนไชส์ 4.0 ก้าวสู่ยุคสังคมไร้เงินสด กับ WASHCOIN ร้านสะดวกซักผ้าออนไลน์ จ่ายเงินผ่าน Application

     เมื่อวันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้ร่วมกันจัดเสวนาพิเศษ Teck Talk ในรายวิชา BUS200, CSC200 และ CSE200 บัณฑิตในอุดมคติ ให้ความรู้กับนักศึกษา เรื่อง “เจาะลึกแฟรนไชส์ 4.0 ก้าวสู่ยุคสังคมไร้เงินสด กับ WASHCOIN ร้านสะดวกซักผ้าออนไลน์ จ่ายเงินผ่าน Application” โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรคือ คุณมงคล ผอบนาง (คุณหมู) CEO WashCoin และเป็น CTO บริษัท ดูเรียน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ณ ห้อง Auditorium อาคาร 40 ปี มหาวิทยาลัยศรีปทุม พอประมวลสรุปความได้ดังต่อไปนี้


     คุณมงคล ผอบนาง (คุณหมู) เล่าว่า เรียนทางสายอาชีวะศึกษามา จึงมีความคิดอยากจะทำเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จึงได้พัฒนา Application ที่สามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ ชื่อว่า WASHCOIN ส่วนรายละเอียดของ WashCoin คืออะไร? นั้นมีรายละเอียดดังนี้  WashCoin คือการ Transform เทคโนโลยีจาการให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแบบเก่า เข้าสู่ยุคใหม่โดยอาศัยเทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things ทำให้สามารถใช้งานหรือบริหารจัดการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญผ่าน App ได้ทันที ปัจจุบันเป็น WashCoin เแฟรนไชส์ เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุน
ก่อนที่จะพัฒนา Application สิ่งใดขึ้นมาก็ตาม ประการแรกต้องคิดถึงปัญหา (Problem) เสียก่อนว่าสิ่งที่เราจะคิดพัฒนาขึ้นนั้นมีปัญหาอะไรบ้าง? Why WashCoin? คือเครื่องซักผ้าในระบบเดิม เมื่อเวลาจะซักผ้า ต้องเอาเงินไปแลกเหรียญมาก่อน ผู้ประกอบการก็มีปัญหาเรื่องของการแลกเหรียญ หรือมีการจารกรรมเกิดขึ้น ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อเวลาเก็บเหรียญจากเครื่องหยอดเหรียญจะมีน้ำหนักมาก บางครั้งเป็น 10 กิโลกรัม หรือหากมีการมอบหมายให้คนอื่นไปเก็บเหรียญอาจมีการโกงเกิดขึ้น บางครั้งเมื่อหยอดเหรียญซักผ้าลงไปแล้ว เครื่องซักผ้าไม่ทำงานบ้าง มันกินเหรียญบ้าง จะเอาเหรียญคืนก็ลำบาก หากจะงัดเอาเหรียญคืน อาจถูกกล่าวว่าเป็นขโมยหรือโจรอีก หรือแม้กระทั่งหากเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญถูกโจรงัดแงะ ก็ต้องซ่อมเครื่องซักผ้าอีกซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายแพง นอกจากนี้ยังมี ปัญหาเครื่องซักผ้าเดิมซักไม่สะอาด, ไม่มีเครื่องอบผ้าแห้ง, เครื่องซักผ้าเดิมเก่ามากไม่สะอาด, ตามหอพักหรือคอนโดมิเนียมตากผ้าไม่ได้ จะเห็นได้ว่าระบบเดิมมีปัญหามากมาย ประการที่ 2 ต้องทำต้นแบบหรือ Prototype เมื่อก่อนคุณหมูเคยทำ App ขายเบียร์ แต่ทำไม่สำเร็จ เคยนำ App นี้ไปขายในบาร์โคดี้ ขายได้เป็น 10 ล้านบาท เขาซื้อตั้งแต่ยังเป็น Prototype  แม้ทำไม่สำเร็จแต่ก็ได้ความรู้และประสบการณ์มาก เมื่อจะพัฒนาอะไรขึ้นมาสักอย่างต้องทำ Prototype ก่อน ตัวอย่างเช่น Web site, Facebook, Mobile App, Backend, Hardware, Business Model เขาบอกว่า เมื่อคิดได้แล้วต้องลงมือทำทันที เขาเคยทำเรื่องของ Hardware อยู่แล้ว จึงลองทำ WashCoin ขึ้นมาดู เพราะนั่นคือ CEO-FOUNDER ประการที่ 3 ต้องคิด Business Model บริษัทของเขามีพนักงานเพียง 2 คน แบ่งรายได้แบบหารกัน หรือถ้าหากใครมี Action มากกว่าคนนั้นควรจะได้มากกว่า การรวมกลุ่มกันทำ ต้องแยกฟังก์ชั่นกันว่า ใครทำด้านการตลาด ใครขายสินค้า อีกประการหนึ่งของการคิด Business Model คือ การระดมทุน (Raise Fund) เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ ต้องสื่อความหมายไอเดียให้ชัดเจนว่า เขาเชื่อถือหรือไม่? เช่น เราเคยทำยอดขายสินค้าได้ 2 แสน เขาก็จะกล้าซื้อ เพราะเรามีเครดิต ในการทำธุรกิจ Startup จะมีคำหนึ่งที่นิยมเรียกกันคือ นักลงทุนนางฟ้า (Angel Investor) หมายถึง นักลงทุนใจดีที่หยิบยื่นเงินลงทุน หรือโอกาสมาให้ คล้ายกับนางฟ้าใจดีที่หยิบยื่นรอยยิ้มมาให้ เพราะฉะนั้น หากธุรกิจใด หากมีไอเดียดีๆ ก็มีผู้ยินดีสนับสนุนเงินลงทุนให้เสมอ หลักวิธีการสร้างสตาร์ทอัพ (Startup) รุ่นใหม่มีอยู่ 3 อย่างที่สำคัญคือ สร้างขึ้น (Build), วัดผล (Measure), เกิดการเรียนรู้ (Learn)


     ด้วยแนวโน้มในอนาคตเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก สังคมจะกลายเป็นสังคมไร้เงินสด ไม่ต้องใช้เหรียญหรือแบ็งค์แล้ว “โลกในอีก 4 ปีข้างหน้า จะเปลี่ยนแปลงเท่ากับ 20 ปีที่ผ่านมา” อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) จะพาทัวร์ตีตั๋วไปเยือน ‘ดวงจันทร์’ ในอีก 1 ปีข้างหน้า (ปี ค.ศ. 2018) ซึ่งหากโปรเจ็คนี้ยังไม่ล้มเลิก การเยือนดวงจันทร์ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางในรอบ 45 ปีของมนุษยชาติเลยทีเดียว โดยสิ่งที่ทำให้โปรเจ็คนี้น่าสนใจคือ สเปซเอ็กซ์ไม่ได้ส่งนักบินอวกาศ แต่เป็นการส่ง ‘ผู้โดยสาร’ ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา จำนวน 2 ที่นั่งไปทัวร์ดวงจันทร์แทน อีลอน มัสก์ บอกถึงการเดินทางครั้งนี้ว่า ‘นี่เป็นโอกาสพิเศษที่มนุษยชาติจะได้เดินทางกลับไปสู่ดวงจันทร์อีกครั้ง หลังจากที่ยานอพอลโล 17 เดินทางไปดวงจันทร์เมื่อปี ค.ศ.1972’ ซึ่งเขายังย้ำอีกด้วยว่าโครงการนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากองค์การนาซา (www.favforward.com) คติของ อีลอน มัสก์ ยังบอกอีกว่า “หากสิ่งที่คุณทำไม่เคยล้มเหลว คุณไม่ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา” และประกอบกับภาคราชการได้ผลักดันให้ไร้เงินสด ในประเทศพม่าใกล้บ้านเรา เขาใช้โทรศัพท์ 4G – 5G เลย เพราะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการที่ต้องไปเริ่มต้นที่ 2G หรือ 3G เหมือนกับการสมัครบัตรเครดิต ซึ่งมีค่าใช้จ่ายมาก เช่น ต้องเสียค่าทำเนียม ค่าทำบัตรต่างๆ หรือเมื่อก่อนหากไปซื้อของหรือกาแฟตามร้าน เมื่อได้กาแฟแล้วจะมีเสียงเตือนดังปีดๆ เพื่อให้เข้าไปรับกาแฟ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแพง ดังนั้น เราต้องพัฒนา Application WashCoin ขึ้นมาซึ่งสามารถชำระเงินผ่าน QR Code จากสมาร์ทโฟนได้เลย เรียกว่า QR Code Mobile Payment สำหรับ   WashCoin Application นั้น เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยหลายอย่างเข้าไว้ด้วยกัน (www.washcoin.net) ทำให้เกิดการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและบริการ ซึ่งมีองค์ประกอบและความสะดวกสบายหลายอย่างดังต่อไปนี้ คือ (1). Internet of Things (IoT) หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง เทคโนโลยี IoT ก่อให้เกิด Smart Devices หลายอย่างที่เราคาดไม่ถึง ทำให้เราสามารถเข้าถึงและควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านอินเทอร์เน็ตจากทุกที่  เช่น Smart TV กล้องวงจรปิด รถตัดหญ้า ตู้เย็น เมื่อสิ่งของหรืออาหารในตู้เย็นหมดลง สามารถสั่งซื้อสิ่งของใหม่เข้ามาแทนที่ได้ทันที ถ้าหากเราคิดจะพัฒนา Application นี้ขึ้นมาเมื่อ 5 ปีที่แล้วไม่สามารถทำได้ เพราะต้นทุนสูงมาก เช่น เฉพาะ Chip คอมพิวเตอร์ก็ร่วม 3,000 แล้ว ปัจจุบันอุปกรณ์ IoT รวมกันแล้วหลัก 100 บาท เรื่องของ Timing สำคัญที่สุด เพราะเทคโนโลยียังมาไม่ถึง หากถามว่า ทำไมถึงคิดอยากพัฒนา WashCoin? ขอตอบว่า อยากทำธุรกิจที่ขยายตัวได้, ใช้เงินน้อย และจ่ายเงินสด  (2). Mobile App เป็นการใช้สมาร์ทโฟนใช้งานผ่าน Application ในการสื่อสารกับผู้ใช้งาน ทำให้รูปแบบการ Interface ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ในขณะที่ผู้ใช้ได้รับการบริการที่ดีมากขึ้น ผู้ใช้เชื่อมต่อกับ 3G-4G ได้ง่ายขึ้น และราคาถูกลง การใช้บริการในรูปแบบของการบริการผ่าน Internet 4G จึงทำได้ง่ายมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน (3). ใช้เทคโนโลยี QR Code โดย QR Code ของ WashCoin นั้นถือว่าเป็นขั้นเทพ เพราะสามารถใช้กล้องจากสมาร์ทโฟนถ่ายรูปและสแกนจ่ายได้เลย (4). เบ็ดเสร็จในหน้าเดียว เพื่อต้องการให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเรียนรู้มากมาย แต่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ WashCoin จึงออกแบบให้จบการทำงานได้ โดยใช้หน้าหลักของ App เพียงหน้าเดียว (5). ตรวจสอบคิวว่าง และเวลาในการรอ หมดปัญหาเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญคิวเต็ม เพราะคุณสามารถเช็คได้ว่าเครื่อง WashCoin เครื่องไหนว่างอยู่ และแม้เครื่องจะไม่ว่าง คุณก็สามารถจองคิวล่วงหน้าได้ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อถึงคิวคุณ (6) ไม่ต้องแลกเหรียญอีกต่อไป WashCoin ใช้ระบบเติมเงินออนไลน์ ทำให้คุณสามารถซักผ้าได้ตลอดเวลาไม่ต้องรอแลกเหรียญ และคุณสามารถเติมเงินได้โดยตรงจากผู้ดูแลอาคาร หรือเติมผ่านบัตรเครดิตได้โดยตรง (7) Notification  ระบบ WashCoin จะคอยแจ้งเตือให้คุณเมื่อคิวว่าง หรือเมื่อซักผ้าเสร็จ หรือถึงคิวซัก จะมีระบบ Push Notification แจ้งเตือนคุณในทันที (8). Fast Track ระบบหยอดเหรียญแบบเดิมจะถูกใช้งานในลักษณะตามมีตามเกิด แต่ระบบ WashCoin จะเป็นลักษณะ Time Sharing อย่างแท้จริง ทำให้คุณใช้เวลาในการจัดการกับเสื้อผ้ากองโตประจำสัปดาห์น้อยลงเลย.

โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุพล พรหมมาพันธุ์
อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.